คำชี้แจงของหมอคลินิกพิเศษ  ที่ไม่ได้ทำคลอดให้จนเด็กตายในท้อง  

       จากกรณีที่มีหญิงสาวคนหนึ่งที่ออกมาร้องผ่านสื่อให้ช่วยหาความเป็นธรรมให้กับเธอในกรณีที่ทางโรงพยาบาลไม่ทำคลอดให้กับเธอจนเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกของเธอเสียชีวิตในท้อง  โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงวันที่ 9เดือนกุมภาพันธ์ ปีพ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา  

 

       คำชี้แจงของหมอคลินิก สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นหญิงสาวรายนี้ระบุว่าตัวเธอเองนั้นได้มีการฝากครรภ์กับคุณหมอท่านหนึ่งเอาไว้ซึ่งเป็นการฝากครรภ์ที่คลินิกแห่งหนึ่งโดยมีการระบุว่าถ้าหากว่าวันคลอดเธอสามารถไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลที่คุณหมอท่านนี้เป็นหมอประจำอยู่ได้

  อย่างไรก็ตามเธอมีอาการผิดปกติของท้องตั้งแต่วันที่ 9 เดือนกุมภาพันธ์ซึ่งคุณหมอให้เธอไปที่โรงพยาบาลแต่หลังจากนอนอยู่ 1 คืนก็ไม่ได้มีการทำคลอดให้กับเธอบอกให้เธอกลับบ้านวันรุ่งขึ้นในช่วงเวลาเย็น

เมื่อเธอมาหาหมออีกครั้งหนึ่งเธอก็พบว่าลูกของเธอนั้นเสียชีวิตแล้วซึ่งทางโรงพยาบาลช่วยเหลือเพียงแค่มอบเงินเยียวยาจิตใจให้กับเธอเพียงเท่านั้น

        อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นข่าวโด่งดังตามสื่อต่างๆจนในที่สุดในขณะนี้คุณหมอซึ่งเป็นคุณหมอพิเศษที่หญิงสาวรายนี้ได้มีการฝากครรภ์เอาไว้ก็ได้ออกมาแถลงการณ์ถึงสาเหตุของการที่ไม่ได้ทำคลอดให้กับเด็กจนเกิดเหตุการณ์เศร้าสลดในครั้งนี้

โดยคุณหมอให้ข้อมูลว่า  สาเหตุที่วันที่ 9 เดือนกุมภาพันธ์ ปีพ.ศ. 2565 ที่นางสาวจิรากรเดินทางมาโรงพยาบาลเพราะมีเมือกออกมานั้นทางโรงพยาบาลไม่ได้มีการทำคลอดให้

       เนื่องจากว่าปากมดลูกของนางสาวจิรากรพึ่งเปิดแค่เซ็นเดียว   ufabet    และจากการตรวจสอบข้อมูลก็พบว่าเด็กยังอยู่ในสภาพปกติดีน้ำคร่ำยังไม่เดินซึ่งทางโรงพยาบาลก็ให้นางสาวจิรากรรอสังเกตอาการแต่ก็ไม่พบว่าปากมดลูกจะเปิดเพิ่ม

เนื่องจากว่าถ้าหากเป็นการคลอดลูกปากมดลูกของคุณแม่จะต้องเปิดประมาณ 5-10 เซนถึงจะสามารถทำคลอดได้ นอกจากนี้เมื่อทางพยาบาลได้มีการตรวจสอบสภาพท้องของนางสาวจิรากรก็ยังอยู่ในสภาพดีเด็กในท้องยังคงมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดีจึงไม่ได้มีการผ่าคลอดให้

        อย่างไรก็ตามวันที่ 10  เดือน เดือนกุมภาพันธ์ปีพศ. 2565 นางสาวจิรากรเดินทางมาโรงพยาบาลใหม่อีกครั้งหนึ่งในช่วงเวลาตอนเย็นหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลก็ทำการอัลตร้าซาวด์ที่ท้องของนางสาวจิรกรแต่ก็ปรากฏพบว่าเด็กในท้องไม่มีชีพจรเต้นเมื่อทางเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลตรวจสอบดูก็พบว่าเด็กเสียชีวิต

จากการถูกรกพันคอเจ้าหน้าที่จึงได้มีการผ่าตัดและนำเด็กออกจากช่องคลอดหลังจากนั้นก็ทำแผลให้กับนางสาวจิรากรซึ่งระยะเวลาในการดูแลนางสาวจิรกรเริ่มตั้งแต่วันที่ 10-13 เดือนกุมภาพันธ์ ปีพ.ศ. 2565 ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นเหตุการณ์สุดวิสัยและไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของทางโรงพยาบาลที่ทำให้เด็กเสียชีวิต 

เลิก “กลัวการถูกรังเกียจ

เลิกกลัวการถูกรังเกียจ ผู้ที่ต้องการเป็นคนดีเป็นผู้ที่กลัวว่าจะถูกบุคคลอื่นเกลียดชัง ก็เลยไม่กล้าพูดสิ่งที่ต้องการบอกออกไปตรงๆ คนชนิดนี้จะทนเก็บกดตัวตนของตนไว้ แล้วปรับพฤติกรรมหรือแสดงทีท่าให้กับอีกด้าน เวลาถูกขอความช่วยเหลือก็ไม่กล้าปฏิเสธ ไม่กล้าให้ความคิดเห็นในห้องประชุม ไม่กล้าอ้อนวอนจากคนอื่นๆรวมทั้งจำต้องเพียรพยายามอยู่เพียงลำพัง…

คนพวกนี้ก็เลยเกิด ความตึงเครียดและก็รู้สึกอึดอัดได้ง่ายในทางตรงกันข้าม มีคนอีกเยอะแยะที่ไม่ใส่ใจเรื่องเหล่านี้ ถึงแม้มีคนไม่ชอบก็ยังคงใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ได้เมื่อทดลองไตร่ตรองประเด็นนี้ พวกเราจะเข้าหัวใจได้ว่าการถูกเกลียดชังไม่ใช่ปัญหาแต่ว่าสิ่งที่เป็นปัญหานั้นก็คือเจ้าตัว “กลัวว่าจะถูกเกลียดชัง” ต่างหาก

สรุปเป็น สังคมของพวกเรามีทั้งคนที่”กลัว” ถูกบุคคลอื่นไม่ชอบแล้วก็ผู้ที่เห็นว่าการถูกเกลียดชัง “ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

ทดลองคิดถึงปัญหาจากการถูกไม่ชอบ

คนไหนกันที่กลัวถูกคนอื่นๆเกลียดชัง ให้ทดลองคิดดีๆว่าถ้าหากว่าถูกรังเกียจแล้วชีวิตพวกเราจะทุกข์ยากลำบากหรือจะเป็นผลเสียอะไรบ้าง ต่อจากนั้นให้คิดต่อว่าถ้าหากพวกเราเพียรพยายามทำให้คนอื่นๆถูกใจจะมีส่วนที่ดีและส่วนที่เสียต่อตัวเองอย่างไรบ้าง

แล้วลองเอามาเปรียบกันข้อตำหนิของการถูกรังเกียจมีอะไรบ้างคงจะมีเพียงแค่การมีความเกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดโทษและส่งผลเสียรวมทั้งไม่ดีต่อกัน ทำให้คุยกันทุกข์ยากลำบากหรือไม่ ด้วยเหตุนี้แม้ว่าจะถูกบางบุคคลในสถานที่ทำงานรังเกียจ แม้กระนั้นถ้าเกิดคุณยังปฏิบัติงานก้าวหน้าก็ย่อมไม่มีปัญหาสิ่งจำเป็นในสถานที่สำหรับทำงานเป็นการสร้างผลงานก้าวหน้า ได้รับค่าตอบแทนหรือค่าจ้างจากสิ่งนั้นถ้าหากคุณผลิตผลงานที่ดีให้กลุ่ม หรือทีม หรือบริษัทได้ ถึงแม้มีคน “ไม่ชอบขี้หน้า”คุณบ้างก็ตาม

อย่างน้อยก็คงจะยังมีคนอื่นๆที่ชื่นชอบว่าคุณปฏิบัติงานก้าวหน้ารวมทั้งพึ่งพิงได้ อาจจะเกิดเรื่องยากที่พวกเราจะถูกคนเกลียดชังทั้งบริษัท ผมเองก็เคยปฏิบัติงานเกินเวลาในบริษัทมากจนกระทั่งเพื่อนผู้ร่วมการทำงานพากันวิจารณ์ แต่ว่าในทางตรงกันข้ามผมก็ทำผลงานก้าวหน้า ก็เลยได้รับผลของการประเมินที่น่าพึงพอใจรวมทั้งเป็นที่ยอมรับของหลายคน

ถ้าเกิดพวกเราปฏิบัติงานและก็สร้างผลงานก้าวหน้า ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเอาใจใส่เรื่องความเกี่ยวพันกับผู้อื่นในทางตรงกันข้าม ถ้าหากหนักใจเรื่องความข้องเกี่ยวกับคนภายในสถานที่สำหรับทำงานมาก จนเกินไป พวกเราบางทีอาจไม่มีสมาธิกับงานข้างหน้า แทนที่จะเหน็ดเหนื่อยกับการกังวลเรื่องของคนอื่นๆเยอะเกินไป สู้เอาแรงมาใช้กับการทำงานจะมีคุณประโยชน์มากยิ่งกว่า

 

สนับสนุนโดย.   ufabet

ปัญหาความเหลื่อมล้ำภายในโรงเรียน

       หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าภายในโรงเรียนนั้นมีปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำเกี่ยวกับเรื่องของการดูแลเด็กนักเรียนของคุณครูที่ต้องดูแลเด็กนักเรียนในห้องเรียนอย่างทั่วถึงแต่ปรากฏว่าบางโรงเรียนนั้นหรือบางห้องเรียนนั้นจะมีคุณครูบางคนที่มีการแสดงออกต่อเด็กนักเรียนนั้นไม่เท่าเทียมกันโดยคุณครูเหล่านี้มักจะได้รับของขวัญเป็นพิเศษจากผู้ปกครองของเด็กนักเรียน

เพื่อฝากให้ดูแลลูกหลานของตนเองเป็นพิเศษซึ่งแน่นอนว่าเมื่อได้รับของฝากของขวัญบ่อยๆการดูแลเด็กนักเรียนในชั้นเรียนย่อมไม่เท่าเทียมกันเพราะถ้าหากพ่อแม่ของเด็กนักเรียนคนไหนมีของมาฝากคุณครูบ่อยๆเด็กนักเรียนคนนั้นก็จะได้รับการดูแลเอาใจใส่จากคุณครูเป็นอย่างดีในขณะที่พ่อแม่ผู้ปกครองคนไหนไม่ได้สนใจที่จะซื้อของมาฝากคุณครูประจำชั้น

ก็จะทำให้ลูกหลานของตนเองนั้นไม่ค่อยได้รับความสนใจหรือการดูแลจากคุณครูมากนักซึ่งแน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อเด็กนักเรียนโดยตรงเพราะเขาจะสามารถรับรู้ได้เลยว่าคุณครูนั้นให้ความสนใจคนในห้องเรียนนั้นไม่เท่าเทียมกันและสิ่งที่ตามมานั่นก็คือจะทำให้มีปัญหาต่อตัวเด็กนักเรียนและกับเพื่อนนั่นเอง

เพราะเด็กๆจะยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของพฤติกรรมของคุณครูที่จะทำแบบนี้และจะทำให้เด็กนั้นเกิดการทะเลาะกันเพราะเกิดความอิจฉาริษยากันดังนั้นปัญหาต่างๆเหล่านี้จึงไม่ควรเกิดขึ้นการที่ผู้ปกครองนั้นต้องการที่ให้คุณครูนั้นเอาใจใส่ลูกหลานของตนเองก็สามารถฝากฝังดูแลเป็นพิเศษได้

แต่ไม่ควรที่จะมีการติดสินบนให้กับคุณครูเป็นกรณีพิเศษเพราะจะทำให้เด็กนักเรียนนั้นได้รับการดูแลอย่างไม่เท่าเทียมกันและจะมีปัญหาตามมานั่นเองและตัวผู้ปกครองเองนั้นหากอยากจะให้ของขวัญกับคุณครูก็ควรจะมีการประชุมปรึกษาหารือกันในกลุ่มของผู้ปกครองและรวมเงินกันและซื้อเป็นของขวัญ

โดยส่งเป็นตัวแทนของผู้ปกครองส่งให้คุณครูจะเป็นการดีกว่าการที่จะให้ตัวต่อตัวเพราะคุณครูนั้นจะสามารถดูแลเด็กนักเรียนในชั้นได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกันโดยที่ไม่ต้องมานั่งเกรงใจผู้ปกครองว่ารับของของผู้ปกครองมาแล้วจำเป็นต้องดูแลเด็กคนนี้เป็นพิเศษนั่นเองอย่างไรก็ตามการดูแลเด็กนักเรียนให้เท่าเทียมกันนั้น

จะส่งผลต่อสุขภาพจิตของเด็กนักเรียนได้เป็นอย่างดีพวกเขาจะได้ไม่รู้สึกว่าพวกเขานั้นถูกเลือกปฏิบัติและทำให้ไม่รู้สึกไม่อยากไปโรงเรียนเพราะได้รับการปฏิบัติไม่เท่าเทียมเหมือนกับเพื่อนนั่นเอง อย่างไรก็ตามปัญหาเรื่องการดูแลเด็กอย่างไม่เท่าเทียมกันนั้นส่วนใหญ่เรามักจะเห็นเฉพาะโรงเรียนเอกชน เพราะผู้ปกครองนั้นมีกำลังทรัพย์ในการติดสินบนครูมากกว่าโรงเรียนรัฐบาลนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.    ufabet

สังคมในปัจจุบันเสื่อมถอยไปเยอะ

เราจะเห็นได้ว่าข่าวตามสื่อต่างๆได้มีการลงและแจ้งเราในแต่ละวันว่ามีเหตุการณ์ต่างๆนาๆ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่แล้วข่าวที่มีการแจ้งเราในแต่ละวันนั้นส่วนใหญ่จะเป็นการทะเลาะวิวาสและเป็นการป้นจี้ กรือการฉ้อโกง ซึ่งเราต้องบอกว่าในสมัยนี้คนเราใจโหดเหี้ยมขึ้นเยอะไม่ว่าจะเป็นการตีการยิงกันนั้นก็มีแทบทุกวัน นี่ยังไม่รวมการฆ่าที่เป็นการฆ่าเพื่ออัมพรางอีกนะ ซึ่งเราจะเห็นกันได้ทุกวัน และสมัยนี้ข่าวที่จะทำให้เรามองแล้วรู้สึดดีแทบไม่มีเลย

กฏหมายที่อ่อนเกินไปส่งผลให้เกิดข่าวดังอย่างทุกวันนี้จริงหรือไม่

ในความคิดส่วนตัวของเรามองว่ากฏหมายสมัยนี้มันอ่อนมากจึงทำให้เด็กหรือคนรุ่นใหม่ๆไม่มีการเกรงกลัวต่อกฏหมายแม้แต่น้อย เพราะบางคนที่มีการฆ่ากัน พอเข้าคุกไม่นานก็พ้นคดีออกมาสร้างก่อคดีใหม่ให้วุ่นวายอีก สำหรับบางคนนั้นก็ไม่ได้มีความเกรงกลัวกฏหมายแม้แต่น้อยเพราะเห็นฆ่าคนเป็นว่าเล่น และก็เข้าออกคุกเป็นว่าเล่นด้วยเช่นกัน 

เรามองว่าสมควรมีโทษประหารได้แล้ว เพราะในความเป็นจริงโทษประหารไม่มีจริงเลย จึงเป็นเหตุที่ทำให้ผู้ร้ายเหล่านั้นเหิมเกริมซึ่งหากมีการประหารเกิดขึ้นคงจะมีคนเกรงกลัวกฏหมายบ้าง นี่อะไรขนาดเด็กที่ยังไม่ถึง 18 ปีก็มีคดีกันแล้ว 

การข่มขืนมีแทบจะทุกวันไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ซึ่งเราเองมองว่าสังคมสมัยนี้เป็นอะไรกันไปหมด การข่มขืนแล้วฆ่ายังปล่อยให้พวกเขาลอยนอลอยู่ข้างนอกคุกกันอย่างหน้าตาเฉย ซ฿งทำให้พวกเรานั้นต้องระวังตนเองจากภัยสังคมเหล่านี้จะมีลูกหรือหลานก็ต้องระวังกันเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่ผู้หญิงเท่านั้นนะเพราะในการเรียกการสอนสำหรับโรงเรียนครูอาจารย์ก็ยังมีการบังคับข่มขืนทั้งนักเรียนหญิงและนักเรียนชายอีกด้วย แทบจะมองว่าเราจะไว้ใจใครได้ ในข่าวบางข่าวพ่อก็ข่มขืนลูกตนเอง ซึ่งเป็นลูกที่เป็นสายเลือดเดียวกันนี่ยังไม่เอ่ยถึงลูกเลี้ยงเลยนะ แย่กันไปหมดสังคมอะไรกัน 

การใช้ชีวิตในสังคมเหล่านี้ต้องระวังรอบตัวรอบข้างให้ดี อย่าไว้ใจใครเด็ดขาด ยิ่งมีลูกก็ต้องมองให้ดีว่าเรานั้นเอาลูกหลานไปไว้ใกล้ใคร เพราะแม้แต่ครูหรือพ่อแก็ไว้ใจยากเหมือนกันแทบจะไว้ใจใครไม่ได้เลย และทางที่ดีอย่าเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียวเวลามืดๆและอย่าใส่สิ่งของล่อตาล่อใจกับคนร้าย เพราะสมัยนี้มันไม่ได้จะชิงแค่ทรัพย์เพียงอย่างเดียวนะแต่มันฆ่าคุณได้แบบไม่คิดอะไรเลยด้วย

 

สนับสนุนโดย   ufabet