เลิก “กลัวการถูกรังเกียจ

เลิกกลัวการถูกรังเกียจ ผู้ที่ต้องการเป็นคนดีเป็นผู้ที่กลัวว่าจะถูกบุคคลอื่นเกลียดชัง ก็เลยไม่กล้าพูดสิ่งที่ต้องการบอกออกไปตรงๆ คนชนิดนี้จะทนเก็บกดตัวตนของตนไว้ แล้วปรับพฤติกรรมหรือแสดงทีท่าให้กับอีกด้าน เวลาถูกขอความช่วยเหลือก็ไม่กล้าปฏิเสธ ไม่กล้าให้ความคิดเห็นในห้องประชุม ไม่กล้าอ้อนวอนจากคนอื่นๆรวมทั้งจำต้องเพียรพยายามอยู่เพียงลำพัง…

คนพวกนี้ก็เลยเกิด ความตึงเครียดและก็รู้สึกอึดอัดได้ง่ายในทางตรงกันข้าม มีคนอีกเยอะแยะที่ไม่ใส่ใจเรื่องเหล่านี้ ถึงแม้มีคนไม่ชอบก็ยังคงใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ได้เมื่อทดลองไตร่ตรองประเด็นนี้ พวกเราจะเข้าหัวใจได้ว่าการถูกเกลียดชังไม่ใช่ปัญหาแต่ว่าสิ่งที่เป็นปัญหานั้นก็คือเจ้าตัว “กลัวว่าจะถูกเกลียดชัง” ต่างหาก

สรุปเป็น สังคมของพวกเรามีทั้งคนที่”กลัว” ถูกบุคคลอื่นไม่ชอบแล้วก็ผู้ที่เห็นว่าการถูกเกลียดชัง “ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

ทดลองคิดถึงปัญหาจากการถูกไม่ชอบ

คนไหนกันที่กลัวถูกคนอื่นๆเกลียดชัง ให้ทดลองคิดดีๆว่าถ้าหากว่าถูกรังเกียจแล้วชีวิตพวกเราจะทุกข์ยากลำบากหรือจะเป็นผลเสียอะไรบ้าง ต่อจากนั้นให้คิดต่อว่าถ้าหากพวกเราเพียรพยายามทำให้คนอื่นๆถูกใจจะมีส่วนที่ดีและส่วนที่เสียต่อตัวเองอย่างไรบ้าง

แล้วลองเอามาเปรียบกันข้อตำหนิของการถูกรังเกียจมีอะไรบ้างคงจะมีเพียงแค่การมีความเกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดโทษและส่งผลเสียรวมทั้งไม่ดีต่อกัน ทำให้คุยกันทุกข์ยากลำบากหรือไม่ ด้วยเหตุนี้แม้ว่าจะถูกบางบุคคลในสถานที่ทำงานรังเกียจ แม้กระนั้นถ้าเกิดคุณยังปฏิบัติงานก้าวหน้าก็ย่อมไม่มีปัญหาสิ่งจำเป็นในสถานที่สำหรับทำงานเป็นการสร้างผลงานก้าวหน้า ได้รับค่าตอบแทนหรือค่าจ้างจากสิ่งนั้นถ้าหากคุณผลิตผลงานที่ดีให้กลุ่ม หรือทีม หรือบริษัทได้ ถึงแม้มีคน “ไม่ชอบขี้หน้า”คุณบ้างก็ตาม

อย่างน้อยก็คงจะยังมีคนอื่นๆที่ชื่นชอบว่าคุณปฏิบัติงานก้าวหน้ารวมทั้งพึ่งพิงได้ อาจจะเกิดเรื่องยากที่พวกเราจะถูกคนเกลียดชังทั้งบริษัท ผมเองก็เคยปฏิบัติงานเกินเวลาในบริษัทมากจนกระทั่งเพื่อนผู้ร่วมการทำงานพากันวิจารณ์ แต่ว่าในทางตรงกันข้ามผมก็ทำผลงานก้าวหน้า ก็เลยได้รับผลของการประเมินที่น่าพึงพอใจรวมทั้งเป็นที่ยอมรับของหลายคน

ถ้าเกิดพวกเราปฏิบัติงานและก็สร้างผลงานก้าวหน้า ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเอาใจใส่เรื่องความเกี่ยวพันกับผู้อื่นในทางตรงกันข้าม ถ้าหากหนักใจเรื่องความข้องเกี่ยวกับคนภายในสถานที่สำหรับทำงานมาก จนเกินไป พวกเราบางทีอาจไม่มีสมาธิกับงานข้างหน้า แทนที่จะเหน็ดเหนื่อยกับการกังวลเรื่องของคนอื่นๆเยอะเกินไป สู้เอาแรงมาใช้กับการทำงานจะมีคุณประโยชน์มากยิ่งกว่า

 

สนับสนุนโดย.   ufabet

หมอปลาวางแผนล่อจับพระฉาว ล่อลวงสีกาเข้ากระท่อม หวังขืนใจ 

     หมอปลาวางแผนล่อจับพระฉาว  มีหญิงสาวคนหนึ่งได้มีการติดต่อไปที่หมอปลา สัมภเวสีเพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือเนื่องจากว่าเธอถูกพระสงฆ์รายหนึ่งคุกคาม  โดยหญิงสาวรายนี้ระบุว่าก่อนหน้านี้เธอเคยไปที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรีเพื่อทำการดูดวง 

หญิงสาวรายนี้เล่าว่าพระสงฆ์ได้ให้เธอนั้นถ่ายรูปตำหนิตามร่างกายให้ดู หลังจากที่หญิงสาวรายนี้มีการส่งรูปถ่ายให้ดูพระสงฆ์ก็บอกกับเธอว่าเธอนั้นกำลังดวงตก และมีผีคอยตามและอาจจะถูกคุณไสยต้องรดน้ำมนต์  

          ภายหลังจากทำพิธีรดน้ำมนต์แล้วพระสงฆ์ลายนี้ก็เริ่มติดต่อคุกคามเธอโดยมักจะโทรมาหาเธอให้เธอนั้นถ่ายรูปอวัยวะเพศและหน้าอกไปให้ดูโดยอ้างว่าถ้าเธอไม่ทำจะทำคุณไสยให้ตายภายใน 7 วันซึ่งทำให้เธอนั้นหวาดกลัวเป็นอย่างมากอย่างไรก็ตามในตอนแรกนั้นเธอได้มีการบล็อกหมายเลขและบล็อกไลน์เพื่อไม่ให้พระสงฆ์สามารถติดต่อเธอได้แต่พระสงฆ์ก็ยังพยายามที่จะติดต่อเธอและยังคงคุกคามเธออย่างต่อเนื่อง

        ในที่สุดเธอจึงได้มีการติดต่อหมอปลาเพราะเกรงว่าพระสงฆ์คนดังกล่าวจะทำคุณไสยใส่เธอและเธอก็ได้เล่าเรื่องราวให้กับหมอปลาได้ฟังพร้อมกับขอร้องให้หมอปลาออกหน้าช่วยเหลือเธอ   อย่างไรก็ตามทางด้านหมอปลานั้นได้มีการวางแผนกับหญิงสาวรายนี้พร้อมกับผู้สื่อข่าวที่มาทำข่าวโดยเมื่อพระสงฆ์รายนี้ได้มีการนัดหญิงสาวอีกครั้งหนึ่งให้หญิงสาวไปตามนัดแต่ให้เรื่องสถานที่เป็นสถานที่ที่หญิงสาวนั้นได้มีการกำหนดเอง

         โดยได้มีการแอบติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้หลังจากนั้นเมื่อหญิงสาวนัดเจอกับพระสงฆ์องค์นี้ที่จังหวัดนครปฐม  จึงมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าพระสงฆ์นั้นคุกคามทางเพศหญิงสาวจริงเพราะในคลิปจะเห็นได้ว่าพระสงฆ์นั้นบังคับถอดเสื้อผ้าของหญิงสาวถึงแม้ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและหมอปลารวมถึงนักข่าวจะเข้าไปจับกุมในขณะที่เกิดเหตุแต่พระสงฆ์ในคลิปก็อ้างว่าหญิงสาวเป็นคนถอดเสื้อผ้าเองและตนเองนั้นไม่ได้มีการทำผิดแต่อย่างใด 

          อย่างไรก็ตามหลังจากที่จำนวนด้วยหลักฐานจากคลิปจากกล้องวงจรปิดก็ทำให้พระสงฆ์องค์นี้ไม่พอใจได้มีการทะเลาะและจะทำการชกต่อยกับหมอปลาซึ่งท้ายที่สุดแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการประสานงานให้กับทางสำนักสงฆ์ประจำจังหวัดมาทำการฝึกให้กับพระสงฆ์ที่เป็นข่าวฉาวพร้อมทั้งดำเนินคดีในข้อหาข่มขู่ และมีพฤติกรรมหลอกลวง  

      สำหรับเรื่องนี้เชื่อว่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับใครอีกหลายคนให้ระมัดระวังจะถูกหลอกเหมือนกับหญิงสาวรายนี้ 

 

สนับสนุนโดย.    สมัคร gclub royal1688

สาวสุดช้ำ หลังถูกพี่สะใภ้โกงซื้อที่ดินปลูกบ้านโดยไม่มีการทำสัญญา 

           สาวสุดช้ำ หลังถูกพี่สะใภ้โกง    มีเรื่องราวของหญิงสาววัย 57 ปีคนนึงซึ่งถูกเผยแพร่มาเมื่อวันที่ 29 เดือนมกราคมปีพศ. 2565 โดยรายงานนั้นระบุว่าหญิงวัยกลางคนรายนี้เป็นชาวจังหวัดอุดรธานีกำลังเจอกับปัญหาถูกพี่สะใภ้ซึ่งเป็นพี่สาวของสามีนั้นโกงโดย เธอมีชื่อว่านางอุทัย  ได้ให้ข้อมูลกับนักข่าวว่าก่อนหน้านี้เธอต้องการที่จะปลูกบ้านเป็นของตนเองและเห็นที่ดินของพี่สะใภ้นั้นน่าสนใจเธอจึงได้มีการโอนเงินมาให้พี่สะใภ้เพื่อขอซื้อที่ดิน

       นอกจากนี้เธอยังได้โอนเงินอีกจำนวนหนึ่งส่งมาให้พี่สะใภ้ช่วยสร้างบ้านให้กับเธออีกด้วยโดยการโอนเงินหรือการซื้อที่ดินมาสร้างบ้านนั้นเธอไม่ได้มีการทำสัญญาใดๆเนื่องจากว่าเห็นเป็นเครือญาติกัน  แต่แล้วอยู่ดีๆบ้านที่เธอกำลังสร้างอยู่นั้นก็ถูกพี่สะใภ้สั่งให้รื้อถอนออกเมื่อโทรไปสอบถามทางด้านพี่สะใภ้ก็บอกแค่เพียงว่าเธอไม่เคยซื้อขายที่ดินกับน้องสะใภ้มาก่อนและไม่เคยโอนเงินมาซื้อขายที่ดินไม่มีสัญญาใดๆทั้งสิ้น

       นอกจากนี้ทางด้านในอุทัยยังถูกพี่สะใภ้สั่งห้ามไม่ให้เข้าไปในพื้นที่เขตบ้านของตนเองอีกด้วยทำให้เธอไม่รู้จะทำยังไงจึงได้ติดต่อนักข่าวให้ช่วยทำข่าวเพื่อให้เป็นข่าวดังและให้คนที่เกี่ยวข้องที่มีอำนาจสามารถช่วยเหลือเธอได้มาช่วยดำเนินคดีให้กับเธอในครั้งนี้ด้วย 

       สำหรับที่ดินที่มีคดีความนั้นอยู่ตรงบริเวณริมถนนสายบ้านผักตบ-บ้านหนองบัว ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ของจังหวัดอุดรธานีมีขนาดพื้นที่ประมาณ 2 งานกับ 17 ตารางวาดูหนังอุทัยกล่าวว่าได้มีการโอนเงินให้กับพี่สะใภ้ในราคา 20,000 บาทซึ่งได้มีการตกลงซื้อขายกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ไม่มีเอกสารยืนยันการซื้อขายกันเพราะมีการเชื่อใจกันและไม่คิดว่าจะมีปัญหาการโกงกันเกิดขึ้นนั่นเอง 

        อย่างไรก็ตามนางอุทัยกล่าวว่าตอนที่ทำสัญญาซื้อขายกันนั้นสามีของเธอยังมีชีวิตอยู่แต่หลังจากที่สามีของเธอเสียชีวิตไปเมื่อประมาณปีพ.ศ 2556 บรรดาญาติพี่น้องของสามีของเธอนั้นก็เริ่มตีตัวออกห่างซึ่งตนเองนั้นก็ต้องหางานทำจึงได้เดินทางมายังกรุงเทพฯเพื่อมาทำงานที่กรุงเทพฯหลังจากนั้นก็มีการส่งเงินไปให้พี่สะใภ้เรื่อยๆโดยวานให้พี่สะใภ้นั้นช่วยทำการหาช่างมาทำการสร้างบ้านให้กับเธอ

         นางอุทัยกล่าวว่าเธอรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากที่เดินทางกลับมาบ้านที่จังหวัดอุดรธานีเพราะอยากเห็นสภาพบ้านว่ามีการก่อสร้างไปถึงไหนแล้วแต่ปรากฏว่าเมื่อมาถึงนั้นพบแต่เสาปูนและบ้านที่ถูกรื้อไปเรียบร้อยแล้วเมื่อสอบถามไปยังพี่สะใภ้ก็ถูกปฏิเสธว่าพื้นที่ดังกล่าวพี่สะใภ้ไม่เคยขายให้กับเธอและถ้าหากซื้อขายจริงก็ต้องมีสัญญาซื้อขายมายืนยันซึ่งตัวเธอเองไม่มีจึงไม่สามารถทำอะไรได้ 

       อย่างไรก็ตามเมื่อนักข่าวไปสอบถามสามีของพี่สะใภ้ที่โกงน้องสะใภ้นั้นปรากฏว่าทางด้านของสามีของเจ้าของที่ก็ยืนยันว่าไม่เคยขายที่ดินให้กับน้องสะใภ้มาก่อนและไม่รู้เรื่องเงิน 20000 บาทที่มีการโอนให้กันอีกด้วย 

 

สนับสนุนโดย.     ทางเข้า Ufabet มือถือ

ประจวบยังไม่อนุมัติจัดงานแต่งแขก4พันคน

ประจวบยังไม่อนุมัติ ซึ่งเราจะมาไล่เรียงสถานการณ์ covid 19 ในแต่ละพื้นที่ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ติดเชื้อโควิค 19 สายพันธุ์โอมิครอนแล้วกว่า 80 ราย และส่วนใหญ่อยู่ที่หัวหิน70 กว่ารายแล้วมีประเด็นที่ต้องคุยกันว่าจะจัดได้หรือไม่สำหรับงานแต่งงานที่คาดว่าแขกจะมากันเยอะจำนวน 4 พันกว่าคนที่ทับสะแกก็คาดว่าน่าจะเป็นคนกว้างขวางทางจังหวัดเองก็บอกว่าตอนนี้ยังไม่อนุญาตแต่อยู่ในระหว่างการพิจารณานั้นเอง 

เริ่มต้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์กันก่อนเลยนายแพทย์วัชรพงษ์ เหลืองไพรัตน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้บอกว่าตอนนี้มีการเสนอขออนุญาตจัดงานมงคลสมรสในพื้นที่อำเภอทับสะแก 

ซึ่งคาดว่าจะมีคนมาร่วมงานประมาณ 4พันคนก็บอกว่าวันที่ 11 มกราคม คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้รับทราบแนวทางการจัดงานเบื้องต้นแล้ว

แต่ตอนนี้ยังไม่ได้อนุญาตโดยให้ผู้จัดงานเขากลับไปทำแผนให้มันชัดเจนว่าจะมีมาตรการที่รองรับอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ในพื้นที่แล้วก็จะมีการพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้งว่า จะให้จัดได้หรือจัดไม่ได้ในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้คณะกรรมการก็เห็นแล้วว่าการจะจัดงานในพื้นที่ถ้าคนร่วมงานมีไม่เกิน 500 คน ก็สามารถจัดได้เพราะว่าจังหวัดอยู่ในพื้นที่ควบคุมโซนสีส้ม แต่หากว่าเกินกว่าตัวเลข 500 คน นี้ทางคณะกรรมการต้องพิจารณา ต้องป้องกันการแพร่ระบาดที่อาจจะก่อให้เกิดเป็นกลุ่มก้อนใหม่

สำหรับที่ประจวบคีรีขันธ์ก็พบโควิช 19 สายพันธุ์โอมิครอนแล้วมีผู้ป่วย 83รายด้วยกัน ส่วนใหญ่เป็นการตรวจพบที่อำเภอหัวหิน70 รายโดยมีกลุ่มก้อนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก

สาเหตุก็คือการสัมผัสคนใกล้ชิดภายในครอบครัวคนในที่ทำงานการจัดกิจกรรมการรวมกลุ่มกันในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมานั่นเอง จากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เรามาติดตามสถานการณ์ที่จังหวัดชลบุรีกันต่อ

วันนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรีได้รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด 19 ตัวเลขอยู่ที่ 832 คนด้วยกันอำเภอบางละมุงตรวจพบติดเชื้อมากที่สุดถึง 467 คน แล้วก็มีกลุ่มก้อนร้านอาหารกึ่งผับเพิ่มขึ้นมาอีก 21 คน 

โดยส่งผลให้สะสมในพื้นที่และรอบนี้4844 คนแล้ว ลองลงมาที่อำเภอศรีราชา 161 คน อำเภอเมืองชลบุรี 86 คน และอำเภอสัตหีบ 49 คน มีบุคลากรการแพทย์ติดเชื้อก็พบติดเชื้อวันนี้ 16 คนด้วยกัน

ดังนั้นผู้ติดเชื้อจำนวนมากก็มีอาชีพเสี่ยงบริการเชื่อมโยงไปสัมผัสคนในครอบครัวสถานที่ทำงานบุคคลใกล้ชิดและวงสังสรรค์ 307 คน ในจำนวนนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวนโรค 424 คน

ซึ่งยังไม่ทราบประวัติที่แน่ชัดสัมผัสเชื้อเกือบ 100ราย ด้วยการวันนี้มีรายงานการเสียชีวิต จำนวน 1 รายเป็นผู้สูงอายุ 67 ปีปัจจัยการนำไปเสียชีวิตก็คือท่านมีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูงกับโรคเบาหวานและไม่พบประวัติการรับวัคซีน

 

สนับสนุนโดย.    Ufabet เข้าสู่ระบบ