โรเซ่ (Ros’) วงแบล็กพิงค์(BLACKPINK) 

    โรเซ่(Ros’) ทำหน้าที่เป็นนักร้องนำของวง เธอมีเสียงที่ชวนฝัน แม้ว่านี่จะไม่ใช่ความลับแต่โรเซ่ยังคงทำให้ผู้ชมเห็นต่างออกไปด้วยความสามารถในการร้องเพลงของเธอไม่ว่าจะผ่านเพลงที่มีโน๊ตตัวสูงๆที่น่าประทับใจ หรือสงบเงียบและเสียงนุ่มนวลสไตล์เสียงที่แตกต่างของเธอทำให้เธอได้รับฉายา เสียงทองคำ

ในเกาหลีโดยมีแฟนๆบอกว่าเธอมีความสามารถในการปลอบประโลมและทำให้ผู้คนมีความสุขกับการร้องเพลงของเธอ นักวิจารณ์หลายคนยังชื่นชมการแสดงสดของเธอในขณะที่เธอต้องร้องเพลงที่เตื้อเพลงมีโน๊ตตัวสูงๆไปพร้อมกับการเต้น สิ่งที่ถึงยิ่งกว่าคือเธอสามารถแสดงได้หลากหลายสไตล์ไม่ว่าจะเป็น R&B, soul, pop หรืออันเทอร์เนทีฟ 

       โรเซ่(Ros’)มีความสามารถหลากหลายมีเหตุผล ที่ว่าทำไมเธอถึงได้อันดับหนึ่งในการคัดเลือกผู้มีความสามารถในเมลเบิร์นในวัยเด็กของเธอเธอได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ในฐานะศิลปินโดยเพิ่มเครื่องดนตรีโดยกีตาร์และเปียโนลงในรายการความสามารถของเธอนอกเหนือจากการร้องเพลง

เธอสามารถร้องเพลงได้เหมือนว่าเป็นเพลงของเธอเองในขณะที่เล่นเครื่องดนตรีอย่างเป็นมืออาชีพทำให้แฟนๆตื่นเต้นที่จะได้เห็นทักษะอื่นๆของเธอที่เธอสามารถแสดงต่อไป

 

      โรเซ่(Ros’)เป็นนักเต้นที่มีเสน่ห์นอกเหนือ จากความน่ารักด้วยน้ำเสียงของเธอแล้วนั้นโรเซ่ยังแสดงความสามารถด้านการเต้นที่ยอดเยี่ยมบนเวทีเสมอ ที่เปี่ยมไปด้วยความสมบูรณ์แบบด้วยการแสดงออกทางสีหน้าและท่าเต้นที่เพรียวบางของเธอและเพิ่มพลังกับการแสดงของ แบล็กพิงค์ BLACKPINK อย่างแน่นอน

อีกทั้งเธอยังได้เป็นนางแบบชั้นนำเพราะด้วยจากความสูงที่น่าทึ่งของเธอและสัดส่วนและความมั่นใจของโรเซ่ที่ได้กลายเป็นที่ชื่นชอบและมิวส์ของดีไซเนอร์นิตยสารเธอสามารถดึงออกมาได้แม้กระทั่งแฟชั่นชั้นสูงและเมื่อไม่นานมานี้เธอได้ขึ้นปก Dazed Korea ในลุคชุดดำทั้งหมดแสดงถึงด้านที่ดุดันของเธอ

 

       โรเซ่(Ros’) เธอรักการกินเป็นเหมือนพวกเรา เมื่อพูดถึงอาหารใครใครก็ตื่นเต้นที่สุดเมื่อมีอาหารอร่อยและโรเซ่ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเธอชอบอาหารมากกว่าชีวิตอย่างน้อยนั่นก็เป็นสิ่งที่ปฏิกิริยาของเธอมักจะแสดงออกมาเธอเป็นคนที่ร่าเริงและมีความสุขในขณะที่ได้กินซึ่งโดยพื้นฐานแล้วพวกเราทุกคนก็เป็น

 

ขอบคุณเรื่องราวที่ให้นำมาเสนอ โดย แทงบอลออนไลน์ ฝากขั้นต่ำ 100

ข่าวเจ้าของไร่ยุทธนา เกษตรสวนผสมแฉกลับลูกค้าเล่าความเท็จ

จากกรณีที่มีข่าววัยรุ่นชายรายหนึ่งใช้ชื่อว่าบอส ได้โพสต์เล่าเรื่องว่าได้จองที่พักไปเที่ยวกางเต็นท์นอนที่ไร่ยุทธนา เกษตรสวนผสม แล้วไม่ได้รับการดูแล

โดยระบุว่าเมื่อไปถึงที่ไร่ ได้สอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ไร่แล้วว่าสามารถกางเต็นท์ตรงไหนได้บ้างทางเจ้าหน้าที่บอกว่าได้หมดยกเว้นตรงริมน้ำ

นายบอส จึงทำการกางเต็นท์แล้วขนของมาวางไว้ที่เต็นท์จนเสร็จ แต่หลังขนของเสร็จไม่นานทางไร่ก็มาแจ้งบอกว่าที่ตรงนี้กางเต็นท์ไม่ได้เพราะมีคนจองไว้แล้ว ให้ย้ายไปกางแถวริมน้ำ

ซึ่งบริเวณริมน้ำนายบอสเห็นว่าคนกางเต็มแล้ว และถ้าต้องไปเบียดที่กับคนอื่นเขาไม่ชอบที่สำคัญเขาได้ถามก่อนที่จะกางเต็นท์แล้วว่าได้ไหมแต่ทำไมพอเขาทำเสร็จแล้วบอกว่าไม่ได้ทำให้เขาไม่พอใจจึงขอเงินคืนแล้วย้ายไปพักที่แทน

เมื่อเรื่องราวเผยแพร่ออกไปเพื่อนของนายบอสได้ออกมาช่วยกันต่อว่าไร่ยุทธนากันมากมาย

จนเรื่องราวถึงแชร์ไปถึงเจ้าของไร่ยุทธนา ทำให้เจ้าของไร่ต้องออกมาชี้แจงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบอกว่านายบอสให้ข้อมูลไม่หมด ไม่ละเอียดและเป็นการใส่ร้ายหมิ่นประมาทไร่ยุทธนาเป็นอย่างมาก

โดยเจ้าของไร่ได้เล่าว่า นายบอสได้ทำการจองที่พักไว้จริง เมื่อไปถึงไร่ นายบอสได้พาสุนัขไปด้วย 1 ตัวซึ่งสุนัขตัวดังกล่าวค่อนข้างตื่นคน ไม่ว่าจะเห็นหมาด้วยกัน เห็นคนแปลกหน้า เห็นอะไรก็เห่าไปซะหมดเห่าตลอดจนกลุ่มนักท่องเที่ยวที่อยู่เต็นท์ข้างๆรำคาญ เลยได้ตะโกนต่อว่าเรื่องหมาเห่าเสียงดัง 

ทางไร่ยุทธนา จึงแก้ไขปัญหาด้วยการแนะนำให้นายบอสย้ายที่การเต็นท์แทนหากนายบอสไม่สะดวก

เพราะทางไร่เองก็ไม่อยากให้ลูกค้าท่านอื่นเสียบรรยากาศเหมือนกันจึงหาทำเลอื่นให้นายบอส แต่นายบอสไม่พอใจกลุ่มลูกค้าเต็นท์รอบๆอยู่แล้ว จึงโวยวาย ไม่ยอมกางเต็นท์แล้วขอเงินคืนไม่ยอมนอน ทางไร่ยุทธนาก็คืนเงินให้ โดยนายบอสโอนเงินมา 180 บาททางไร่คืนเป็นเงินสด 160 บาทหักค่าน้ำแข็งที่นายบอสซื้อ 20 บาท

แต่เมื่อนายบอสออกมาโพสต์เหมือนทางไร่ผิดแบบนี้ทำให้ทางไร่ไม่พอใจ โดยหากนายบอสยังไม่หยุดการกระทำจะฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท เพราะทางไร่มีพยานที่เป็นลูกค้าที่มาพักในวันนั้นมากมายมาเป็นพยานให้

          สำหรับเรื่องนี้คงต้องรอดูนายบอสอีกทีว่าจะออกมาว่าอย่างไรบ้าง อันที่จริงการสำหรับเรื่องนี้การไปพักผ่อนที่ไหนก็ตามคุณไม่ควรเอาหมาไปด้วย เพราะจะเป็นรบกวนคนอื่น ไม่ใช่ว่าทุกคนจะรักสัตว์ยิ่งสัตว์ที่เห่าไม่หยุด มันสร้างความรำคาญให้คนอื่นเขามาก ดังนั้น การไปเที่ยวที่มีคนอื่นเขาไปเที่ยวด้วยควรมีมารยาทสักนิด

ว่าที่คุณหมอหูหนวก ตาบอด คนแรกของโลก

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ อเล็กซานดรา อดัมส์ อายุ 25 ปี

อเล็กซานดรา อดัมส์ อายุ 25 ปี นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่สี่แห่งมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์

 มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงติดอันดับหนึ่งในห้าของสหราชอาณาจักร อดัมเป็นคนพิการหูหนวกตาบอดมาตั้งแต่เกิดแต่เดิมเธอไม่เคยสนใจที่จะเป็นแพทย์มาก่อนจนกระทั่งเมื่อตอนเธออายุ 16 ปี เธอเป็นตัวแทนของนักกีฬาว่ายน้ำสหราชอาณาจักรในการแข่งขันพาราลิมปิค 2012 

 แต่กับป่วยต้องเข้าโรงพยาบาลจากอาการกดไหลย้อนอย่างรุนแรงแพร่ต้องทำการผ่าตัดช่องท้องของเธอกว่า 20 ครั้งจึงทำให้เธอต้องใช้เวลารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานถึงหนึ่งปีกับอีกหกเดือน 

ด้วยประสบการณ์อันเลวร้ายครั้งนี้เธอจึงตัดสินใจเลิกเป็นนักกีฬาพาราลิมปิกกลับเข้าไปเรียนในโรงเรียนสอนคนตาบอดโดยมีเป้าหมายใหม่คืออยากเป็นหมอเธอต้องการช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยที่ต้องทุกข์ทรมานอย่างที่เธอเคยประสบมาก่อนแล้ว

 

หลังจบจากโรงเรียนสอนคนตาบอด 

อดัมส์ได้สมัครเข้าศึกษา ต่อในโรงเรียนแพทย์หลายแห่งแต่ทุกที่ปฏิเสธที่จะรับเธอแต่เธอก็ไม่ยอมย่อท้อต่อความตั้งใจเธอจึงยอมเสียเวลารออีกหนึ่งปีเพื่อเข้าสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยแพทย์อีกครั้งหนึ่งแล้วในปีถัดมาเธอก็สามารถเข้าเรียนในคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ได้สำเร็จ 

แม้เป้าหมายในการเข้าเรียนคณะแพทย์จะสำเร็จแต่ด้วยอุปสรรคทั้งร่างกายทำให้เส้นทางสู่กลางฝันของเธอนั้นเต็มไปด้วยความยากลำบาก 

     หูของเธอหนวกทั้งสองข้างตาข้างขวาบอดสนิทส่วนข้างซ้ายมองเห็นเพียง 5 เปอร์เซนต์ เธอโดนดูถูกดูแคลนทั้งจากเพื่อนนักศึกษาด้วยกันเองแล้วจะอาจารย์หมอบางคนรวมไปถึงคนไข้บางรายด้วยนี่คืออุปสรรคอีกขั้นหนึ่งในชีวิตนักศึกษาแพทย์ของเธอแต่อดัมส์ 

ก็ไม่เคยย่อท้อเธอมีความมุ่งมั่นและเชื่อมั่นในตัวเองว่าแม้การมองเห็นของเธอจะมีเพียงน้อยนิดแต่ความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจของคนไข้นั้นมันมีอยู่ในตัวเธอมากกว่าคนจำนวนมากแน่นอน

ในความมุ่งมั่นพยายามและความอดทนต่ออุปสรรคทั้งหลายของเธอ

อดัมส์โชคดีได้มีโอกาส พบกับคนพิการที่เป็นแพทย์ในสารัทธ์อเมริกาได้เจอกับหมอที่ตาบอดสนิทถึงห้าท่านเธอได้เรียนรู้เทคโนโลยีต่างๆมากมายที่จะช่วยให้การทำงานของเธอนั้นง่ายขึ้นจากแพทย์สหรัฐอเมริกาขณะนี้

 ซึ่งถือเป็นกำลังใจสำคัญให้เธอต่อสู้กับความยากลำบากและอุปสรรคต่างๆในการเรียนวิชาแพทย์ต่อไปอีกไม่นาน อเล็กซานดราออดัมส์ จะกลายเป็นคุณหมอหูหนวกตาบอดคนแรกของสหราชอาณาจักรและของโลกในเร็วๆนี้