สังคมไทยในปัจจุบันเป็นสังคมที่มีการแข่งขันสูงในทุกทุกด้าน
ไม่ว่าจะเรื่องการทำงาน การค้าขาย หรือแม้แต่การศึกษาก็ยังต้องมีการแข่งขันกัน เพื่อให้ได้มาซึ่งผลที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง การแข่งขันทางด้านการศึกษานั้นไม่ได้ในสมัยก่อนนั้นแทบจะไม่มีเลย เพราะเราสามารถนำบุตรหลานไปเข้าเรียนที่โรงเรียนไหนก็ได้ไม่มีปัญหาแต่เดียวนี้ ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว หากเราอยากให้ลูกหลานของเราเข้าโรงเรียนดีดี มีชื่อเสียง และอยู่ในสังคมที่ดี ก็ต้องแข่งขันกับคนอื่นเพื่อที่จะสามารถให้บุตรหลานของเราสามารถเข้าเรียนที่โรงเรียนนั้นนั้นได้ เพราะในปัจจุบันนี้
สังคมโรงเรียนจะมีการออกกฎให้นักเรียนที่จะเข้าเรียนได้ต้องแข่งขันแย่งกันสอบเข้าเรียนเท่านั้น ด้วนสภาวะที่เด็กมีมากกว่าที่โรงเรียนจะรับได้ ดังนั้น จึงต้องมีการคัดเลือกให้เด็กเข้าเรียนตามจำนวนที่โรงเรียนมีที่นั่งเพียงพอ ตัวอย่างสภาพการแย่งชิงการเข้าเรียนเช่น โรงเรียนหนึ่งสามารถรับเด็กเข้าเรียนได้ประมาณ 100 ที่นั่ง แต่มีเด็กนักเรียนสนใจที่จะมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ถึง 300 คนซึ่งปริมาณจำนวนที่จะสามารถรับเด็กได้กับจำนวนเด็กที่อยากมาเรียนที่นี่แตกต่างกันมาก ดังนั้นทางโรงเรียนจึงต้องเปิดให้มีการแข่งขันกันเกิดขึ้น
ซึ่งก็คือการสอบคัดเลือกเด็กเข้าเรียน และเมื่อต้องมีการสอบเพื่อรับนักเรียนที่เรียนดีที่สุดเข้าเรียน ผู้ปกครองเองก็ต้องให้บุตรหลานของตัวเองไปเรียนพิเศษเพิ่มนอกเหนือจากการเรียนปรกติ เพราะเกรงว่าลูกหลานของตัวเองจะไม่สามารถแข่งขันสู้กับคนอื่นเขาได้
ดังนั้นปัจจุบันนี้เรามักจะเห็นว่าเด็กจะมีการเรียนเสริมหรือเรียนพิเศษกันเยอะมากยิ่งขึ้น เพราะผู้ปกครองต่างก็พากันคาดหวังเอาไว้ว่าลูกหลานของตัวเองจะต้องเข้าเรียนที่โรงเรียนดีดี จึงได้มีการนำไปเรียนเสริมเพื่อให้จะได้มีความรู้มากกว่าเด็กคนอื่นโอกาสที่จะได้เข้าเรียนโรงเรียนที่ตัวเองต้องการก็จะมีมากยิ่งขึ้น เราจึงมักจะเห็นว่าหลังเลิกเรียนแล้ว เด็กนักเรียนจะยังคงเรียนพิเศษเสริมกับครูที่โรงเรียน หรือบางคนอาจจะมีการมาเรียนเสริมกับโรงเรียนที่เปิดเพื่อกวดวิชาด้านนอกโรงเรียน ซึ่งจะมีมากตามห้างสรรพสินค้า หรือบางคนก็จะมีครูนัดมาสอนพิเศษตามร้านกาแฟ
ซึ่งกว่าจะเลิกเรียนพิเศษก็ค่ำมืด เพราะเด็กบางคนต้องเรียนพิเศษเสริมวันละ 2 วิชาก็มี และที่สำคัญวันหยุดในวันเสาร์และอาทิตย์แทนที่เด็กจะได้หยุดพักผ่อน นอนดูทีวีที่บ้าน แต่สำหรับเด็กบางคนก็ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปเรียนพิเศษตั้งแต่เช้ายันค่ำ เพื่อที่ผู้ปกครองจะได้มั่นใจว่าลูกหลานของตัวเองจะสามารถสอบเข้าเรียนที่โรงเรียนที่ตัวเองต้องการให้เข้าเรียนได้แน่นอน